ภ.ง.ด.3 รายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ใครมีหน้าที่ยื่น
ภ.ง.ด.3 รายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 59 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 3 เตรส และมาตรา 50 (3) (4) (5) กรณีการจ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5) (6) (7) (8) และเสียภาษีตามมาตรา 48 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากรผู้มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด.3
ได้แก่ บุคคล ห้างหุ้นส่วน บริษัท สมาคม หรือ คณะบุคคล ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5) (6) (7) (8) แห่งประมวลรัษฎากร
1. เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5) ได้แก่ เงิน หรือประโยชน์อย่างอื่น ที่ได้เนื่องจาก (ก) การให้เช่าทรัพย์สิน (ข) การผิดสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน (ค) การผิดสัญญาซื้อขายเงินผ่อน ซึ่งผู้ขายได้รับคืนทรัพย์สินที่ซื้อขายนั้นโดยไม่ต้องคืนเงินหรือประโยชน์ที่ได้รับไว้แล้ว
2. เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (6) ได้แก่ เงินได้จากวิชาชีพอิสระ คือ วิชากฎหมาย การประกอบโรคศิลปะ วิศวกรรม ถาปัตยกรรม การบัญชี ประณีตศิลปกรรม หรือวิชาชีพอิสระอื่น ซึ่งจะได้มีพระราชกฤษฎีกากำ หนดชนิดไว้
3. เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (7) ได้แก่ เงินได้จากการรับเหมาที่ ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระในส่วนสำ คัญนอกจากเครื่องมือ
4. เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) ได้แก่ เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง หรือการอื่นนอกจากที่ได้ระบุไว้ใน (1) ถึง (7) แล้ว เงินได้พึงประเมินดังกล่าวข้างต้น ให้รวมถึงเงินค่าภาษีอากรที่ผู้จ่ายเงินหรือผู้อื่น ออกแทนให้ไม่ว่าในทอดใด
วิธีคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด.3
ให้คำ นวณหักภาษี ณ ที่จ่าย แล้วแต่กรณีดังนี้1. บุคคล ห้างหุ้นส่วน บริษัท สมาคม หรือ คณะบุคคล ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5) และ (6) ให้แก่ผู้รับที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งมิได้เป็นผู้อยู่ในประเทศไทย ให้คำ นวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 15.0
2. รัฐบาล องค์การของรัฐบาล หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5) (6) (7) (8) ให้แก่ผู้รับซึ่งมีหน้าที่่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รายหนึ่งๆ มีจำ นวนรวมทั้งสิ้นตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป แม้การจ่ายนั้นจะได้แบ่งจ่ายครั้งหนึ่งๆ ไม่ถึง 10,000 บาทก็ตาม ให้คำ นวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0
เว้นแต่ เงินได้ในการประกวดหรือแข่งขันให้คำนวณหักตามอัตราภาษีเงินได้
3. บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือ นิติบุคคลอื่น ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินดังต่อไปนี้ (เฉพาะกรณีการจ่ายเงินตามสัญญารายหนึ่งๆ ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป) ให้แก่ผู้รับซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
1. ค่าเช่า หรือประโยชน์อย่างอื่นที่ได้เนื่องจากการให้เช่าทรัพย์สินตามมาตรา 40 (5) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร (ไม่รวมถึงค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนที่ได้รับกรรมสิทธิ์) ให้คำนวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 5.0
กรณีจ่ายค่าเช่าเรือตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมพาณิชย์นาวี
ที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศให้แก่ผู้รับซึ่งเป็นผู้อยู่ในประเทศไทย ให้คำ นวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 1.0
2. เงินได้จากวิชาชีพอิสระตามมาตรา 40 (6) แห่งประมวลรัษฎากรเฉพาะที่จ่ายให้แก่ผู้รับที่เป็นผู้มีภูมิลำเนาในประเทศไทยหรืออยู่ในประเทศไทยให้คำนวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 3.0
3. ค่าจ้างทำ ของที่เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (7) หรือ (8) แห่งประมวลรัษฎากร ให้คำนวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 3.0
4. ค่าโฆษณา ให้คำนวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 2.0
5. เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่ เป็นการจ่ายเงินได้จากการให้บริการนอกเหนือจาก (3) (4) และ (7) (ไม่รวมถึงการจ่ายค่าบริการของโรงแรมหรือภัตตาคาร) ให้คำนวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 3.0
6. รางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์ใดๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย (ไม่รวมถึงการจ่ายเงินได้ให้แก่ผู้รับที่เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการซึ่งได้แก่ ผู้บริโภคโดยตรงที่มิได้มีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปขายต่อ หรือผู้ประกอบการที่นำสินค้าหรือบริการไปใช้ในการประกอบกิจการของตนเองโดยตรง) ให้คำนวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 3.0
7. ค่าขนส่ง (ไม่รวมถึงการจ่ายค่าโดยสารสำหรับการขนส่งสาธารณะ)ให้คำนวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 1.0
4. บุคคล บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินดังต่อไปนี้ (เฉพาะกรณีการจ่ายเงินตามสัญญารายหนึ่งๆ ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป)
1. เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่เป็นรางวัลในการประกวด การแข่งขัน การชิงโชค หรือการอื่นใดอันมีลักษณะทำนองเดียวกันให้คำนวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 5.0
2. เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร ที่จ่ายให้แก่ผู้รับซึ่งเป็นนักแสดงสาธารณะ ได้แก่นักแสดงละคร ภาพยนตร์ วิทยุและโทรทัศน์ นักร้อง นักดนตรี นักกีฬาอาชีพ หรือนักแสดงเพื่อความบันเทิงใดๆ ไม่ว่าจะแสดงเดี่ยวเป็นหมู่หรือคณะ หรือแข่งขันเป็นทีม ให้คำนวณหักภาษี ณ ที่จ่าย ดังนี้
(ก) กรณีผู้มีเงินได้มีภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศ ให้คำนวณหักตามอัตราภาษีเงินได้
(ข) กรณีผู้มีเงินได้มีภูมิลำ เนาอยู่ในต่างประเทศที่เป็นนักแสดง
ภาพยนตร์หรือโทรทัศน์เฉพาะกรณีที่มีการดำเนินการถ่ายทำในประเทศไทยโดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศและได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำในประเทศไทยจากคณะอนุกรรมการพิจารณาคำขอถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ให้คำนวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 10.0
(ค) กรณีผู้มีเงินได้มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย ให้คำนวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 5.0
หมายเหตุ กรณียื่นเพิ่มเติมให้กรอกเฉพาะรายการและจำนวนเงินที่แสดง ไว้ขาดและหรือแสดงไว้เกินไปเท่านั้น
สถานที่ยื่นแบบและกำหนดเวลาในการนำเงินภาษีส่ง ภ.ง.ด.3
ให้ผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ยื่นแบบ ภ.ง.ด.3 แสดงรายการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย พร้อมกับนำ เงินภาษีส่งต่อเจ้าพนักงานภายใน 7 วัน นับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงิน ไม่ว่าจะหักภาษีไว้หรือไม่ก็ตาม ณ สำนักงานสรรพากร พื้นที่สาขาในท้องที่ที่ผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายมีสำนักงานตั้งอยู่ซึ่งได้มีการจ่ายเงินความรับผิดของผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด.3
1. ถ้าผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายมิได้หักและนำส่ง หรือได้หักและนำเงินส่งแล้วแต่ไม่ครบจำนวนที่ถูกต้อง ผู้จ่ายเงินต้องรับผิดร่วมกับผู้มีเงินได้ในการ เสียภาษีที่ต้องชำ ระตามจำนวนเงินภาษีที่มิได้หักและนำส่งหรือตามจำนวนที่ขาดไปแล้วแต่กรณีในกรณีที่ผู้จ่ายเงินได้หักภาษีไว้แล้ว
ให้ผู้มีเงินได้ซึ่งต้องเสียภาษีพ้นความ รับผิดที่ต้องชำระเงินภาษีเท่าจำ นวนที่ผู้จ่ายเงินได้หักไว้และให้ผู้จ่ายเงินรับผิดชำระภาษีจำ นวนนั้นแต่ฝ่ายเดียว(มาตรา54 แห่งประมวลรัษฎากร)
2. ถ้าผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ไม่นำเงินภาษีที่ตนมีหน้าที่หักนำส่งภายในกำหนดเวลา จะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่ม ในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือน หรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องนำ ส่ง ทั้งนี้ ให้คำนวณเงินเพิ่มเป็นรายเดือน (เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน) นับแต่วันพ้นกำหนดเวลายื่นแบบฯ จนถึงวันยื่นแบบฯ และนำส่งภาษี (มาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร)
ถ้าผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายไม่ยื่นแบบฯ ภายในกำหนดเวลา
เว้นแต่จะแสดงว่าได้มีเหตุสุดวิสัย ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท (มาตรา 35 แห่งประมวลรัษฎากร)
3. ผู้ใดโดยเจตนาไม่ยื่นรายการที่ต้องยื่น เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 37 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร)
ที่มา : กรมสรรพากร
Social Plugin